จากการสำรวจพบว่าในปัจจุบันอเมริกาและจีนถือเป็นผู้นำทางด้านการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์รายใหญ่ และเป็นประเทศที่มีการผลิตแผงโซล่าเซลล์ออกมาวางจำหน่ายมาที่สุดของโลก จึงทำให้เกิดประเด็นถกเถียงกันเป็นวงกว้างว่าทั้งสิงประเทศนี้ประเทศใดกันแน่ที่มีการผลิตแผงโซล่าเซลล์ที่มีคุณภาพดีกว่ากัน ระหว่างอเมริกาหรือจีน? ซึ่งในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบแผงโซลาร์เซลล์ของอเมริกาและจีน ให้เห็นกันอย่างชัดเจนว่าต้นทุนการผลิต และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแผงโซล่าเซลล์ทั้ง 2 ประเทศนี้มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
แผงโซล่าเซลล์ของอเมริกากับแผงโซล่าเซลล์ของจีนมีความแตกต่างกันอย่างไร?
ข้อแตกต่างของการผลิตแผงโซล่าเซลล์ของอเมริกาและแผงโซล่าเซลล์ของจีนที่สามารถเห็นได้ชัดเจน คือจีนสามารถผลิตแผงโซล่าเซลล์ (PV) ได้ในปริมาณที่มากกว่าอเมริกาถึงสองเท่า โดยตั้งแต่ปี 2009 แม้ว่าปริมาณการผลิตแผงโซล่าเซลล์นี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องดีสำหรับจีนเพราะได้ประโยชน์จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นในต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง ซึ่งนั่นอาจจะหมายความได้ว่าประสิทธิภาพของแผงโซล่าเซลล์นั้นก็อาจจะลดลงด้วย
แต่ในทางตรงกันข้ามการผลิตแผงโซลาร์ในอเมริกาก็มีอัตราประสิทธิภาพที่สูงกว่าแผงโซลาร์จีนประมาณ 4% และ บริษัทพลังงานแสงอาทิตย์ในอเมริกายังสามารถผลิตโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง เนื่องจากการใช้ซิลิคอนคุณภาพสูง แต่เหตุผลหลักที่ทำให้แผงโซล่าเซลล์ของจีนมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นก็อาจจะเป็นเพราะแผงโซล่าเซลล์ของจีนมีราคาถูกกว่าแผงโซลาร์ของอเมริกา
ต้นทุนการผลิต
เฉลี่ยต้นทุนการผลิตต่อวัตต์สำหรับแผงโซลาร์ที่ผลิตในอเมริกาจะอยู่ที่ 0.50 ดอลลาร์ แต่สำหรับแผงโซล่าร์จีนจะมีต้นทุกการผลิตเฉลี่ยต่อวัตต์อยู่ที่ 0.35 ดอลลาร์ ซึ่งบริษัทพลังงานแสงอาทิตย์ในอเมริกาจะมีต้นทุนการผลิตแผงโซล่าเซลล์ที่สูงกว่า เนื่องจากซิลิคอนคุณภาพสูงและวิธีการผลิตที่มีประสิทธิภาพ แต่ในทางกลับกัน บริษัทพลังงานแสงอาทิตย์ที่จีนอาจจะต้องมีการลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลงโดยการลดคุณภาพและประสิทธิภาพของแผงนั่นเอง
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
หากมองในด้านผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของแผงโซล่าเซลล์ของอเมริกาและจีนนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ของอเมริกามักประกอบด้วยวัสดุคุณภาพสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแต่ในทางตรงกันข้าม แผงเซลล์แสงอาทิตย์ของจีนมักมีวัสดุที่เป็นสารพิษอันตราย เช่น ตะกั่วและแคดเมียม ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้บริษัทผลิตแผงโซล่าเซลล์ของอเมริกายังใช้ความระมัดระวังสูงในการปกป้องสิ่งแวดล้อมระหว่างกระบวนการผลิต ยกตัวอย่างเช่น ที่อเมริกามักจะมีการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่และใช้วิธีการผลิตที่ประหยัดพลังงาน จึงทำให้แผงโซล่าเซลล์ของอเมริกามีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าแผงโซล่าเซลล์ของจีน
กำลังการผลิตแผงโซล่าเซลล์ในสหรัฐอเมริกาและจีน
การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก เนื่องจากประเทศต่างหันใส้ความสนใจในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการผลิตไฟฟ้า จึงทำให้กำลังการผลิตติดตั้งแผงโซล่าเซลล์จากทั่วโลกสะสมรวม ณ สิ้นปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 627 กิกะวัตต์ (GW) ซึ่งตามรายงานของ International Energy Agency (IEA) พบว่ามีการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์เพิ่มขึ้น 22% ในปี 2019 และมีการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดจากการสำรวจในปี 2564 ที่ผ่านมาพบว่าจีนมีสถิติการผลิตรวมสูงถึง 306,973 (Megawatts) และ สหรัฐอเมริกามีสถิติการผลิตรวมอยู่ที่ 95,209 (Megawatts) ซึ่งนั่นหมายความว่าแผงโซล่าเซลล์ของอเมริกามีสัดส่วนของการผลิตที่ค่อนข้างน้อยกว่า ในขณะที่แผงโซล่าเซลล์ของจีนนั้นมีสัดส่วนของตลาดมากที่สุด
ประเทศใดผลิตแผงโซล่าเซลล์ที่ดีที่สุดในโลก
การผลิตแผงโซล่าเซลล์นั่นมีหลายปัจจัย ที่ส่งผลต่อคุณภาพของแผง เช่นประเภทของซิลิกอนที่ใช้ในแผงควบคุม ประสิทธิภาพของแผงควบคุม และกระบวนการผลิต แต่ก็มีหลายประเทศที่มีผลิตแผงโซล่าเซลล์คุณภาพสูง และประเทศที่มีเทคโนโลยีโดดเด่นในการผลิตแผงโซล่าเซลล์ ได้แก่บริษัทของอเมริกาหรือยุโรป เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่แตกต่างจากบริษัทจีน อีกทั้งยังเป็นผู้นำด้านการวิจัย พัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตนอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้แผงโซล่าเซลล์มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก
ทำไมแผงโซล่าเซลล์ส่วนใหญ่ผลิตในจีน?
- สาเหตุหลักประการหนึ่งคือจีนมีกลุ่มคนงานที่มีทักษะการผลิตที่จำเป็นจำนวนมาก
- ประเทศมีต้นทุนแรงงานต่ำ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตลงไปได้มาก
- จีนเป็นผู้เสนอเงินอุดหนุนจำนวนมากแก่ผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ เพื่อทำการจัดตั้งโรงงานผลิตในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น
- จีนได้มีการพัฒนาเครือข่ายที่แข็งแกร่งสำหรับส่วนประกอบแผงโซล่าเซลล์
- มีการผลิตวัสดุที่จำเป็นส่วนใหญ่เอง โดยไม่ได้มีการนำเข้าจากผู้ผลิตฝประเทศอื่น
จีนมีการติดตั้งโซล่าเซลล์มากกว่าสหรัฐหรือไม่?
ในปัจจุบันต้องมีการยอมรับว่าที่ประเทศจีนมีการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์มากกว่าสหรัฐอเมริกา โดยจีนมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 205 GW โดยวัดได้ในปี 2019 ตามรายงาน Renewables 2020 ของ IEA และมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศมีทั้งสิ้น 223.8 เทราวัตต์ชั่วโมง (TWh) ซึ่งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่สุดในจีนคือ Huanghe Hydropower Hainan Solar Park (2.2 GW) ตั้งอยู่ในมณฑลชิงไห่
ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีกำลังการผลิตอยู่ที่ 76 GW ซึ่งมีกำลังการผลิตแผงโซล่าเซลล์มากเป็นอันดับสองของโลกในปี 2019 และผลิตไฟฟ้าได้ 93.1 TWh เทราวัตต์ชั่วโมง ซึ่งแคลิฟอร์เนีย เท็กซัส ฟลอริดา และเวอร์จิเนียเป็นรัฐที่มีการใช้งานมากที่สุดในตลาดภายในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าสหรัฐอเมริกามีนโยบายสนับสนุนการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ที่ดีกว่า และเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพจึงทำให้แผงโซล่าเซลล์ของสหรัฐมีคุณภาพที่สูงกว่า
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อแตกต่างของแผงโซล่าเซลล์ของอเมริกาและจีน ที่อาจมีผลโดยตรงต่อราคา คุณภาพการผลิตกระแสไฟฟ้า และอายุการใช้งานของแผงที่ต่างกันนั่นเอง หากใครมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับแผงโซล่าเซลล์สามารถติดต่อได้ที่ Line : @NKSolargroup หรือ โทร : 064-4152594 , 088-9995246